ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เรียกผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์หารือสภาวะธุรกิจ เอกชนยืนยันไม่มีแนวโน้มโอกาสเกิดภาวะฟองสบู่แม้ปี 52 จำนวนที่อยู่อาศัยเติบโต-สินเชื่อขยายตัวดี แต่ไม่ได้มาจากความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น
นายอิสสระ บุญยัง ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวภายหลังหารือกับผู้บริหาร ธปท.ว่า จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างเสร็จในปี 52 ที่ 9.9 หมื่นยูนิต เป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเอื้ออาทร 1.7 หมื่นยูนิต จึงถือว่าอสังหาริมทรัพย์ในตลาดค่อนข้างทรงตัวมาหลายปีแล้ว ทำให้ไม่มีโอกาสเกิดภาวะฟองสบู่
รวมทั้ง การเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีก่อน เป็นเพราะอั้นมาจากปี 50-51 ทำให้ในปี 52 ขยายตัวได้ดีมาก ประกอบกับมีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐเข้ามาช่วย
อย่างไรก็ตาม ในการหารือวันนี้ ทางธปท.ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ และชี้แจงว่ายังไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์การชุมนุมต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ชัดเจน เพราะยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะจบลงเมื่อไหร่ แต่ขณะนี้ถือว่าเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ หากปัญหาการเมืองยุติลง ตลาดบ้านก็จะเติบโตได้มาก
นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า การหารือกับภาคเอกชนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเศรษฐกิจ และคาดการณ์แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความชัดเจนว่าขณะนี้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 52 โดยปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งขยายตัวดีทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน เติบโตเฉลี่ยใกล้เคียงกับที่ 9% จาก 3-4 ปัจจัยหลัก คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย มาตรการภาษีกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การแข่งขันด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย การฟื้นตัวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น จึงยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ในขณะนี้
ส่วนผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองที่มีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่มีความชัดเจน แต่ขณะนี้ผู้ประกอบการยังไม่ได้ทบทวนโครงการ ขณะที่ผู้ซื้อยังประเมินสถานการณ์ไม่ได้ เพราะติดช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์