สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และข่าวคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ยื่นฟ้องโกลด์แมน แซคส์ในข้อหาฉ้อโกง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 1,135.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,138.50-1,124.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 17.731 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.60 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 2.20 เซนต์ ปิดที่ 3.5190 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,696.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 533.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า คณะกรรมการ SEC ยื่นฟ้องโกลด์แมน แซคส์ ในข้อหาฉ้อโกงและไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญของตราสารหนี้ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ ตราสารซีดีโอ จนเป็นเหตุให้นักลงทุนจำนวนมากได้รับความเสียหายนับพันล้านดอลลาร์ ได้สร้างความวิตกกังวลในวงกว้างตั้งแต่ในตลาดหุ้นไปจนถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงตลาดทองคำและน้ำมัน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี ICE Futures US dollar index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในตะกร้าสกุลเงินโลก ดีดตัวขึ้น 0.1%
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,141.041 ตัน ณ วันที่ 16 เม.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันที่ 9 เม.ย. และถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์