สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวโกลด์แมน แซคส์ ถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และความล่าช้าในการเจรจาเพื่อบังคับใช้มาตรการช่วยเหลือกรีซ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3484 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3496 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 92.410 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.150 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0633 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0608 ฟรังค์/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5329 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5358 ปอนด์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.12% แตะที่ 0.9232 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9243 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.10% แตะที่ 0.7089 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักลงทุนยังคงถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นับตั้งแต่มีข่าวว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ยื่นฟ้อง โกลด์แมน แซคส์ ในกรณีที่ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ ABACUS 2007-AC1 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนเป็นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายรวมถึงธนาคารไอเคบี ของเยอรมนี และธนาคารเอบีเอ็น อัมโร ของเนเธอร์แลนด์
นอกจากนี้ นักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินดอลลาร์หนาแน่นขึ้นเมื่อมีรายงานว่า แผนการให้ความช่วยเหลือกรีซซึ่งเดิมกำหนดไว้ว่าจะมีการประกาศในวันจันทร์ ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันพุธ เนื่องจากการเดินทางทั่วโลกได้รับผลกระทบจากเขม่าควันภูเขาไฟที่ปกคลุมเหนือน่านฟ้ายุโรป โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุว่าอุตสาหกรรมสายการบินกำลังสูญเสียรายได้ถึงราว 250 ล้านดอลลาร์/วัน เนื่องจากเหตุภูเขาไฟที่ไอซ์แลนด์ปะทุ จนเป็นเหตุให้น่านฟ้ายุโรปถูกปกคลุมด้วยเขม่าควันหนาทึบ
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0% และยังทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพลังงานจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. ส่วนวันศุกร์ จะมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.