สมาคมเหล็กกล้าแห่งเวียดนามเปิดเผยว่า รัฐบาลเวียดนามอาจใช้มาตรการควบคุมการนำผลิตภัณฑ์เหล็กชนิดที่สามารถผลิตได้เองภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเหล็กนำเข้าจีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย
นายพัม ชี ชอง ประธานสมาคมเหล็กกล้าแห่งเวียดนามซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทถลุงแร่เหล็กกว่าร้อยละ 90 กล่าวว่า เวียดนามสามารถผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง อาทิ เหล็กเส้น ท่อเหล็ก และเหล็กเคลือบสารเมทัลลิก นอกจากนี้ เวียดนามกำลังพัฒนาโรงงานผลิตเหล็กให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้นด้วย
การจำกัดการนำเข้าเหล็กบางประเภทจากต่างประเทศ จะช่วยให้เวียดนามซึ่งเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก สามารถลดผลกระทบที่เกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นในต่างประเทศ รวมถึงประเทศจีน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคาเหล็กรีดร้อนในจีนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน นอกจากนี้ การควบคุมการนำเข้ายังช่วยให้เวียดนามสามารถลดยอดขาดดุลการค้าและจำกัดผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินดอง
ทั้งนี้ สมาคมเหล็กกล้าแห่งเวียดนามเปิดเผยว่า ดีมานด์ผลิตภัณฑ์เหล็กในเวียดนามมีแนวโน้มพุ่งขึ้น 15% ในปีนี้ เนื่องจากโครงการก่อสร้างหลายแห่งที่ชะงักลงไปในช่วงก่อนหน้านี้ กำลังเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งเพื่อรองรับเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลของสมาคมฯระบุว่า เวียดนามนำเข้าเหล็กในปี 2552 เพิ่มขึ้น 22% มาอยู่ที่ระดับ 9.63 ล้านตัน ขณะที่เงินดองร่วงลง 5.4% ในปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลประกาศลดค่าเงินดองถึงสองครั้ง ซึ่งทำให้ราคาสินค้านำเข้าของเวียดนามมีราคาแพงขึ้น
ด้านสมาคมการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างแห่งเมืองไซ่ง่อนเปิดเผยว่า ราคาเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ปรับตัวสูงขึ้น 40% ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2553 และคาดว่าราคามีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเวียดนามประสบความยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อและผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวตามเป้าหมาย
อุตสาหกรรมก่อสร้างของเวียดนามขยายตัว 7.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งช่วยหนุนเศรษฐกิจเวียดนามให้ขยายตัว 4.5% ขณะที่ตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัว 5.8% ส่วนเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลเวียดนามกำหนดไว้ในปีนี้คือ 6.5%