นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกรถยนต์ในเดือนมี.ค.53 อยู่ที่ 63,949 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 42.93% คิดเป็นมูลค่า 29,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.43% เนื่องจากการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทุกตลาด ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง
ส่วนยอดการส่งออกรถยนต์ช่วงไตรมาส 1/53 สามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 196,537 คัน เพิ่มขึ้น 41.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออก 92,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 46.33% จากไตรมาส 1/52
สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนมี.ค.53 มีทั้งสิ้น 150,119 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 129.37% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่มีการผลิตรถยนต์ และเพิ่มขึ้น 17.42% จากเดือนก.พ.53 โดยมีจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วงไตรมาส 1/53 จำนวนทั้งสิ้น 381,817 คัน เพิ่มขึ้นถึง 91.89% จากไตรมาส 1/52
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมี.ค.53 มีจำนวนทั้งสิ้น 63,067 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 52.6% และเพิ่มขึ้น 16.41% จากเดือนก.พ.53 เนื่องจากยอดสั่งจองรถยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 31 มียอดจองจำนวนมาก โดยรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ที่เป็นกลุ่มใหม่ของรถยนต์นั่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ประกอบกับแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลที่เป็นตัวกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น สินค้าเกษตรมีราคาที่สูงขึ้น ตลอดจนการส่งออกในหลายอุตสาหกรรมก็ดีขึ้นด้วย
ส่วนยอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาส 1/53 ปีนี้มียอดขายรวม 166,802 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 54.8%
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส.อ.ท. จะมีการทบทวนเป้าหมายการผลิต การส่งออก และยอดขายรถยนต์ในประเทศอีกครั้ง จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่า จะมียอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้ อยู่ที่ 1,400,000 คัน การส่งออก อยู่ที่ 800,000 คัน และยอดขายในประเทศ อยู่ที่ 600,000 คัน เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองที่มีความยืดเยื้อ และมีความรุนแรงเกิดขึ้น จนส่งผลกระทบทำให้ใช้จ่ายของประชาชนลดลง รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร และรายได้ของเกษตรกร