สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทสหรัฐ รวมถึงแอปเปิล ยาฮู และมอร์แกน สแตนลีย์ นอกจากนี้ วิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 9.60 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1,148.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,138.10-1,151.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 18.078 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 25.70 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,740.30 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 18.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 568.25 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 16.85 ดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงคึกคักต่อเนื่องจากวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตการณ์การเงินในกรีซ และต้นทุนการกู้ยืมของกรีซที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 12 ปี นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทสหรัฐ รวมถึงแอปเปิล อิงค์ ที่เปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้น 49% แตะที่ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้ จากระดับ 9.08 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะที่ยาฮูเปิดเผยว่า บริษัททำกำไรสุทธิในไตรมาสแรกได้ 310.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 22 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้ดีดตัวขึ้น 1% แตะที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกำไรของยาฮูขยายตัวขึ้นเกือบ 3 เท่า หลังรายได้จากการขายโฆษณาออนไลน์ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,141.041 ตัน ณ วันที่ 20 เม.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันที่ 9 เม.ย.