โบอิ้งเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกปรับตัวลดลง 15% สู่ระดับ 519 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับระดับ 610 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต้องหักรายได้ในส่วนของค่าธรรมเนียมกฎหมายประกันสุขภาพ
โบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่จากสหรัฐระบุในรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกว่า รายได้โดยรวมของบริษัทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.522 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากระดับ 1.650 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ ผลกำไรต่อหุ้นร่วงลงแตะ 70 เซนต์ จากระดับ 86 เซนต์ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ โบอิ้งกล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกสะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจหลักๆของบริษัทยังคงมีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอยู่ แม้ว่ากำไรจะลดลงจากเมื่อปีก่อน แต่นั่นเป็นเพราะบริษัทได้หักเงินไป 20 เซนต์ต่อหุ้น เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมประกันสุขภาพ ขณะที่รายได้ต่อหุ้นเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เลวร้ายในภาคอุตสาหกรรมเครื่องบินเชิงพาณิชย์ ทำให้รายได้ต่อหุ้นลดลงไปถึง 31 เซนต์
"ความคืบหน้าของกระบวนการผลิตเครื่องบินโบอิ้ง 787 และ 747-8 ประกอบกับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มลูกค้าของบริษัทที่ดีขึ้น ทำให้เรายังมองเห็นถึงปัจจัยหนุนที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา" จิม แมคเนอร์นีย์ ประธาน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของโบอิ้ง กล่าว
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลกำไรต่อหุ้นของโบอิ้งในปีนี้อาจขยับลงมาอยู่ที่ 3.50 - 3.80 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งร่วงจากระดับ 3.70 - 4.00 ดอลลาร์/หุ้น เนื่องจากต้องบริษัทต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามกฎหมายระบบประกันสุขภาพ แต่บริษัทคาดการณ์ว่า รายได้ในปีหน้าจะเพิ่มสูงกว่าในปีนี้ เพราะจะเป็นช่วงที่มีการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787 - 747-8
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายคาดว่า โบอิ้งอาจเริ่มดำเนินการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787 ล็อตแรกในไตรมาส 4 ของปีนี้ ขณะที่ช่วงปลายไตรมาสที่ผ่านมา โบอิ้งมียอดสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าว 866 ลำ จากลูกค้า 57 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน