นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณาเห็นชอบการประกาศบังคับใช้น้ำมัน บี 3 แทน บี 2 ภายใน 45 วันนับจากนี้ ซึ่งได้มีการตรวจสอบแล้วว่า ปริมาณ บี 100 มีเพียงพอ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะรับซื้อปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น แก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ ขณะเดียวกันยังเป็นการพึ่งพาตนเองของประเทศในการลดการนำเข้าน้ำมัน และลดภาวะโลกร้อนที่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย ส่วนรถยนต์นั้นไม่มีปัญหาต่อเครื่องยนต์ เพราะ 13 ค่ายรถยนต์ได้ออกมาประกาศยืนยันแล้วว่าสามารถใช้ได้
โดยหลังจากมีมติ กบง.แล้ว กรมธุรกิจพลังงานจะต้องไปออกประกาศใหม่ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติใหม่และคุณภาพของน้ำมัน บี3 หลังจากนั้นจะต้องประกาศในราชกิจนุเบกษา และให้ระยะเวลาผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยน เพราะผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีสต็อกไม่เท่ากัน แต่ในที่สุดทุกรายจะต้องขาย บี3 ให้ได้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.2553
สำหรับราคาขายน้ำมัน บี3 จะถูกกว่าน้ำมัน บี5 ประมาณ 90 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมที่ราคาขายน้ำมัน บี 2 กับ บี 5 ประมาณ 1.20 บาทต่อลิตร แต่เมื่อเทียบราคาน้ำมัน บี 3 แล้วจะถูกกว่า บี 2 ประมาณ 30 สตางค์ต่อลิตร เพราะมีการปรับสัดส่วนในการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะลดการชดเชย บี 3 ลง 20 สตางค์ต่อลิตร และลดการชดเชย บี 5 ลง 30 สตางค์ต่อลิตร และปรับลดค่าการตลาดน้ำมัน บี 3 ลง 20 สตางค์ต่อลิตร และบี 5 ลง 30 สตางค์ต่อลิตร เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น
ปัจจุบันการขายน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 53.90 ล้านลิตรต่อวัน แบ่งเป็นดีเซล บี 2 ประมาณ 32.44 ล้านลิตรต่อวัน และบี 5 ประมาณ 21.46 ล้านลิตรต่อวัน โดยมีการนำ บี 100 มาเติมใน บี 2 จำนวน 0.65 ล้านลิตรต่อวัน เติมใน บี 5 จำนวน 1.07 ล้านลิตรต่อวัน รวมใช้ บี 100 เท่ากับ 1.72 ล้านลิตรต่อวัน โดยเมื่อเปลี่ยนมาเป็น บี 3 การเติม บี 100 จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.97 ล้านลิตรต่อวัน ส่วน บี 5 เท่าเดิมที่ 1.07 ล้านลิตรต่อวัน รวมปริมาณการใช้ บี100 เพิ่มขึ้นเป็น 2.05 ล้านลิตรต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 18.84%
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดของการสำรวจวัตถุดิบ พบว่า ในปี 2552 มีน้ำมันปาล์มดิบรวมสต็อก 1,495,551 ตัน ในขณะที่ปริมาณการใช้ในการบริโภค 917,700 ตัน นำมาใช้ผลิตไบโอดีเซล บี100 จำนวน 380,000 และส่งออก 67,292 ตัน รวมทั้งหมด 1,357,992 ตัน ส่วนปี 2553 คาดว่าจะมีน้ำมันปาล์มดิบรวม 1,852,339 ตัน ใช้ในการบริโภค 1,100,000 ตัน และใช้ผลิต บี 100 จำนวน 460,000 ตัน รวมการใช้ 1,560,000 ตัน
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวต่อว่า ตามมติ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) จะต้องบังคับใช้น้ำมันดีเซล บี 5 เกรดเดียว ภายในปี 2554 กบง.ได้มีการพิจารณาแล้วเห็นว่า หากสำรวจแล้วพบว่าปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ผลิต บี100 เพียงพอสำหรับผลิตเป็น บี 5 ก็จะประกาศใช้ บี 5 เกรดเดียว แต่หากปริมาณเพียงพอสำหรับผลิตได้ถึง บี4 ก็จะประกาศใช้เป็น บี4 เกรดเดียวทันที ก่อนที่จะเพิ่มเป็น บี 5 ภายในปี 2554