กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในอัตรา 4.2% ในปี 2553 และจะขยายตัว 4.3% ในปี 2554 ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
-- ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.พุ่งสูงขึ้น 43.5% จากปีก่อนหน้านี้แตะที่ 6 ล้านล้านเยน พร้อมทำสถิติขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เพราะได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศที่ช่วยกระตุ้นให้ยอดส่งออกฟื้นตัวดีขึ้น
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวได้ 3.1% ในปีนี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวอันเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของ 5 ประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม จะขยายตัวราว 5.4% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ในประเทศ
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ 10% ในปีนี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับเครดิตของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ลงสู่ระดับ Aa2 จากเดิม Aa1 โดยให้แนวโน้มเครดิตเป็นลบ
-- คณะกรรมาธิการด้านการคมนาคมของสมาชิกรัฐสภายุโรป กล่าวในการประชุมรัฐสภายุโรปที่สตราสบูร์ก ฝรั่งเศสว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปควรเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัยการบินที่อยู่นอกเหนือข้อกำหนดมาตรฐานของสหภาพยุโรป แทนที่จะให้ผู้โดยสารเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในรายงาน "World Economic Outlook" ว่า จีนควรปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่าเพื่อควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวมากเกินไป ขณะเดียวกันไอเอ็มเอฟยังเรียกร้องให้ญี่ปุ่นขยายระยะเวลาการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศยังเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด
-- สายการบินแควนตัส แอร์เวย์ส และสายการบินต่างๆในเอเชียกลับมาให้บริการเที่ยวบินไปยังยุโรปตามกำหนดการปกติในวันนี้ เนื่องจากยุโรปกลับมาเปิดน่านฟ้าอีกครั้ง หลังจากที่ควันขี้เถ้าจากภูเขาไฟในไอซ์แลนด์แผ่ปกคลุมท้องฟ้าหลายประเทศในยุโรปจนเป็นสาเหตุให้สายการบินต่างๆต้องยกเลิกเที่ยวบินถึงกว่า 1 แสนเที่ยวบินในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
-- ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กมองว่า การควบคุมด้วยกฎระเบียบมากจนเกินไปจะทำให้บริษัทการเงินถอนฐานธุรกิจออกจากตลาดวอลล์สตรีท ซึ่งการออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ถึงแนวคิดที่สวนทางกับแนวทางการปฏิรูปด้านการเงินของบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ
-- พีที เพอร์ตามินา บริษัทน้ำมันที่รัฐบาลอินโดนีเซียเป็นเจ้าของเล็งยกเลิกการนำเข้าน้ำมันในปี 2558 เนื่องจากคาดว่าผลผลิตน้ำมันในประเทศจะพุ่งขึ้นสูงกว่า 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน
-- สถานทูตออสเตรเลียและอังกฤษในกรุงนิวเดลีออกประกาศเตือนชาวต่างชาติเกี่ยวกับการโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในเมืองหลวงของอินเดีย