ยอดขาดดุลงบประมาณในยูโรโซนพุ่งแตะ 6.3% ในปี 2552 นำโดยไอร์แลนด์, กรีซ

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 22, 2010 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน เพิ่มขึ้นแตะ 6.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2552 ซึ่งมากกว่าสองเท่าของที่อียูกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 3% ของจีดีพี

ยอดขาดดุลดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับ 2% ในปี 2551 และเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้เงินยูโรเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2542

ทั้งนี้ ไอร์แลนด์และกรีซเป็นประเทศที่มียอดขาดดุลงบประมาณสูงสุดในยูโรโซน โดยไอร์แลนด์มียอดขาดดุลงบประมาณคิดเป็น 14.3% ของจีดีพี ขณะที่กรีซมียอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 13.6% ของจีดีพี

สำหรับหนี้สาธารณะรวมทุกรัฐบาลในยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ 78.7% ของจีดีพีในปีที่แล้ว จากระดับ 69.4% ในปี 2551

ขณะที่ยอดขาดดุลงบประมาณของ 27 ประเทศสมาชิกอียู ซึ่งรวมถึงประเทศที่ไม่ใช้เงินยูโร รวมเพิ่มขึ้นแตะ 6.8% ของจีดีพี จากระดับ 2.3% ส่วนหนี้สาธารณะพุ่งแตะ 73.6% ซึ่งเกินจากที่อียูกำหนดไว้ที่ 60%

ก่อนหน้านี้ อียูคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในยูโรโซนจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.4% ของจีดีพีในปี 2552 โดยไอร์แลนด์จะขาดดุลงบประมาณ 12.5% และ กรีซ 12.7% และคาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของยูโรโซนในปี 2553 จะขยายตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.9% ของจีดีพี ขณะที่หนี้สาธารณะอาจทะยานแตะ 84%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ