คกก.สิ่งแวดล้อมฯ เห็นชอบศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยจากมลพิษใน จ.ระยอง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 22, 2010 19:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รับทราบความก้าวหน้าการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ.2553-2556(ฉบับทบทวน) และเห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม ในการอนุมัติจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินโครงการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนจากมลพิษอุตสาหกรรมที่สำคัญในพื้นที่ จ.ระยอง รวมวงเงินทั้งสิ้น 36.14 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 2 ปี(1 มิ.ย.53-31 พ.ค.55)

และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษไปพิจารณาเรื่องพื้นที่ศึกษาของทั้ง 3 โครงการ ให้สอดคล้องกันในกรณีที่มีงบประมาณเพิ่มเติม สำหรับการดำเนินงานในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นไม่เกินโครงการละ 5 ล้านบาท ให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมพิจารณาอนุมัติจัดสรรเงินต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 23 (4) แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งกำหนดไว้ว่า "เป็นเงินช่วยเหลือและอุดหนุนกิจการใดๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตามที่คณะกรรมการกองทุนฯ เห็นสมควร และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ" และระเบียบคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขอจัดสรรและขอกู้ยืมเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2552 ข้อ 16 (1) ที่กำหนดไว้ว่า "คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมจะให้การสนับสนุนในแต่ละโครงการไม่เกินห้าล้านบาท กรณีที่คณะกรรมการฯ จะให้การสนับสนุนโครงการใดเกินกว่าห้าล้านบาท ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก่อน" และให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 4 คณะ และให้พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ.2553-2556 จำนวน 2 คณะ คือ คณะอนุกรรมการกำกับการดูแลการแก้ไขปัญหามลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียง และคณะอนุกรรมการพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษและพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่จังหวัดระยอง

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 30 ต.ค.52 เห็นชอบในหลักการร่างคำสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ จำนวน 2 คณะ พร้อมทั้งให้ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน 10 คณะ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้ฝ่ายเลขานุการฯ ตรวจสอบและปรับปรุงถ้อยคำให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งให้จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้ง 10 คณะ พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการที่ศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว

ที่ประชุมฯ เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยข้อร้องเรียนโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำคำสั่งแต่งตั้งและเสนอประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาลงนามต่อไป

และที่ประชุมฯ เห็นชอบให้เสนอพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะระ เกาะพระทอง จ.พังงา และพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช บรรจุไว้ในทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศของอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการดังนี้ 1) ประสานงานกับสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะระ เกาะพระทอง จ.พังงา และพื้นที่ชุ่มน้ำเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช เป็น "พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ" ต่อไป 2) ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ พื้นที่ชุ่มน้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศ เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ประชาชนในพื้นที่ 3) เร่งรัดการประกาศพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญเร่งด่วนสมควรได้รับการเสนอเป็นแรมซาร์ไซต์เพิ่มเติมที่เหลืออีก 2 แห่ง

ที่ประชุมฯ เห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร(ระยะที่ 2) ทางหลวงหมายเลข 4 สายชุมพร-ระนอง ของกรมทางหลวง ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และโครงการร่วมกับเอกชนด้านคมนาคม ในการประชุมครั้งที่ 9/2552 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.52 โดยให้กรมทางหลวงนำความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

ที่ประชุมฯ เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดมาตรฐานค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด และมอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนาม รวมทั้งให้กรมการขนส่งทางบก ออกประกาศกำหนดวิธีการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัดโดยอิงมาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนาม เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การตรวจสภาพรถยนต์ประจำปีและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ