ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศสมาชิกกลุ่ม G-20 ซึ่งจะเปิดฉากในวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกานั้น จะมีการหารือกันในเรื่องของมาตรการสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวอย่างมีอิสระ และป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตขึ้นมาอีกครั้ง โดยที่ประชุมจะได้มีการทบทวนทางเลือกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เกี่ยวกับการให้จ่ายกองทุนสาธารณะที่ได้รับช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก
ที่ประชุมจะได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องความจำเป็นในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันซึ่งสถาบันการเงินที่ลงทุนโดยมีความเสี่ยงสูงและได้รับความช่วยเหลือทางการเงินโดยไม่ได้ใช้เงินภาษีประชาชน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามารวมถึงการห้ามธนาคารทำการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ในบางรูปแบบเพื่อธนาคารเอง (Proprietary Trading) และการเป็นเจ้าของเฮดจ์ฟันด์ รวมทั้งแนวคิดเกี่ยวกับการนำเรื่องการจัดเก็บภาษีแบงค์ เพื่อฟื้นฟูงบประมาณของรัฐบาลที่ได้นำไปใช้จ่ายกับการให้ความช่วยเหลือธนาคารก็จะได้รับการนำมาหารือในที่ประชุมด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการทบทวนเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกว่าอยู่ในสถานภาพที่ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ และคาดว่าจะมีการหารือเรื่องกรอบการดำเนินการเพื่อรับสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการขยายตัวอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นประเด็นที่เหมือนจะสื่อให้เห็นถึงการที่ยอดขาดดุลจำนวนมหาศาลของสหรัฐกับยอดเกินดุลจำนวนมหาศาลของจีน
ประเด็นเรื่องบทวิเคราะห์ของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกถึงวิธีการสร้างสมดุลให้กับระบบเศรษฐกิจก็คาดว่าจะเป็นประเด็นที่จะได้มีการนำมาหารือในการประชุม เพื่อนำมาหารือเรื่องการผลักดันแนวคิดที่จะนำมาใช้นโยบายเพื่อหารือกันในการประชุมสุดยอด G-20 ครั้งต่อไปที่จะจัดขึ้นในเดือนมิ.ย.ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา