ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ยูโรฟื้นตัว หลังกรีซเดินหน้าขอเงินกู้จากอียู-ไอเอ็มเอฟ

ข่าวต่างประเทศ Saturday April 24, 2010 08:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) หลังจากที่กรีซเริ่มดำเนินการขอเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) เป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 1.3390 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3316 ยูโร/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 1.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 125.88 เยน/ยูโร จากระดับ 124.22 เยน/ยูโร นอกจากนี้ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 0.8702 ปอนด์/ยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.75% จากระดับ 0.8637 ปอนด์/ยูโร

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.79% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 94.160 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 93.420 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนค่าลง 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสมาอยู่ที่ 1.0736 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0778 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลง 0.32% แตะที่ 0.9244 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9274 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.55% แตะที่ 0.7141 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7102 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ เงินยูโรฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในกลุ่มประเทศยุโรป โดยเฉพาะในกรีซ และโปรตุเกส ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างปัจจัยลบให้กับสกุลเงินยูโร แต่กลับกลายเป็นปัจจัยหนุนที่ช่วยกระตุ้นให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักสังเกตุการณ์มองว่า วงเงินกู้ช่วยเหลือที่กรีซได้จากไอเอ็มเอฟและอียูนี้จะช่วยให้กรีซบรรเทาภาระหนี้สินได้จนถึงปีหน้าเท่านั้น และกรีซจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจเป็นเวลาหลายปี

ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน เพิ่มขึ้นแตะ 6.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2552 ซึ่งมากกว่าสองเท่าของที่อียูกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 3% ของจีดีพี

ยูโรสแตทระบุว่า ไอร์แลนด์และกรีซเป็นประเทศที่มียอดขาดดุลงบประมาณสูงสุดในยูโรโซน โดยไอร์แลนด์มียอดขาดดุลงบประมาณคิดเป็น 14.3% ของจีดีพี ขณะที่กรีซมียอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 13.6% ของจีดีพี

ส่วนหนี้สาธารณะรวมทุกรัฐบาลในยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ 78.7% ของจีดีพีในปีที่แล้ว จากระดับ 69.4% ในปี 2551


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ