ที่ประชุมจี-20 ชี้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมเรียกร้องให้มีการกำหนดแผนถอดถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศจี-20 กล่าวในแถลงการณ์หลังการประชุมที่กรุงวอชิงตันว่า ประเทศที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจควรหาทางยุติการใช้มาตรการกระตุ้น และระงับการใช้ความช่วยเหลือด้านการเงินด้วยการพิจารณาถึงแนวทางต่างๆอย่างรอบคอบ
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมจี-20 ได้เรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หาวิธีที่จะทำให้ธนาคารสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการออกเงินกู้ช่วยเหลือประเทศต่างๆในอนาคต พร้อมย้ำถึงแผนการปรับปรุงข้อบังคับด้านการเพิ่มคุณภาพและปริมาณเงินทุนของธนาคาร ขณะที่ไอเอ็มเอฟมองว่า ปัญหาหนี้สินภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นหนึ่งในภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงที่สุด
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดในการหารือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่นายธิโมที ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐยังคงกดดันให้จีนปรับค่าเงินหยวน โดยอ้างถึงความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก และผลประโยชน์ที่จีนจะได้รับ
ทั้งนี้ การประชุมจี-20 ในปีนี้นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในขณะที่กรีซดำเนินการขอความช่วยเหลือด้านเงินกู้จากประเทศในยุโรปและไอเอ็มเอฟในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านยูโร (6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีขึ้นหลังจากที่สหภาพยุโรปคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลบัญชีงบประมาณของกรีซในปีที่ผ่านมาจะพุ่งแตะที่ 13.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขณะที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลกรีซ