นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเผยจีนจะยังคงใช้นโยบายเชิงรุกด้านการคลัง และนโยบายการเงินแบบผ่อนปรน อีกทั้งจะปรับปรุงนโยบายให้สามารถตอบสนองต่อวิกฤตการเงินโลกเพื่อรักษาระดับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไว้ นอกจากนี้ นายโจวคาดว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านต่างๆ
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 11.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติการขยายตัวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2550 เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมลดลง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการสร้างถนนหนทางและโครงการอื่นๆ มูลค่า 5.86 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนการส่งออกในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ และช่วยหนุนจุดยืนรัฐบาลในการคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ แม้ว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวเร็วขึ้นก็ตาม
การแสดงความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางจีนนั้นสอดคล้องกับเซีย ซูเหริน รัฐมนตรีคลังจีน กล่าวว่า นานาประเทศทั่วโลกควรจะใช้นโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคต่อไป รวมทั้งการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง
ผู้ว่าการแบงค์ชาติจีนคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวต่อไปอย่างมีเสถียรภาพและรวดเร็วในปีนี้ และจีนจะรักษาสมดุลเรื่องการคาดการณ์เงินเฟ้อ โดยรัฐบาลจีนคาดว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 3% ในปีนี้
อย่างไรก็ดี นายโจวไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนในแถลงการณ์ ซึ่งจีนได้คงอัตราเงินหยวนไว้ที่ระดับเดิมตั้งแต่เดือนก.ค. 2551