(เพิ่มเติม) ครม.ศก.ประเมินผลกระทบชุมนุมเสียหาย 5หมื่นลบ.-ออกมาตรการเยียวยา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 26, 2010 12:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ ได้ประเมินผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งหากการชุมนุมยืดเยื้อไม่เกิน 3 เดือน จะกระทบต่อจีดีพีประมาณ 0.64% คิดเป็นเม็ดเงินราว 5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นการประเมินจากคาดการณ์จีดีพีในปี 53 จะขยายตัวที่ 4.5%

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ศก.ยังเห็นชอบในหลักการมาตรการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และพื้นที่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.53 เป็นต้นมา พร้อมกับมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการใน 3 มาตรการสำคัญ คือ การบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง, การช่วยเหลือพนักงาน-ลูกจ้าง และการช่วยเหลือจากการสูญเสียรายได้ของกิจการ

1.มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง ได้แก่ มาตรการชะลอกระแสเงินสดจ่ายออก เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีเงินได้นิติบุคคล, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ตลอดจนค่าสาธารณูปโภค และเงินนำเข้าประกันสังคมออกไปอีก 180 วัน และมาตรการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ SMEs โดยจัดหาเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1-2 และมาตรการสนับสนุนวงเงินบัตรเครดิต โดยการลดหย่อนอัตราการผ่อนชำระและอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลง โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ

2.มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้าง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ถูกให้ออกจากงาน และ 2.กลุ่มที่ขาดรายได้จากส่วนแบ่งการขายและบริการ โดยภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างทั้ง 2 กลุ่มที่ถูกปลดออกจากงานระหว่างการชุมนุม โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน รวมทั้งนายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย และนางอัญชลี เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ตรวจสอบกลุ่มพนักงานที่ได้รับผลกระทบจริง เพื่อให้ทราบจำนวนผู้ถูกเลิกจ้างที่ชัดเจน และสามารถให้ความช่วยเหลือได้ภายในเดือนพ.ค.นี้

3.มาตรการช่วยเหลือผลกระทบจากการสูญเสียรายได้ของกิจการ โดยการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีโรงเรือน รวมทั้งแนวทางการชดเชยค่าเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการรายย่อยที่เช่าพื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าตรวจสอบจำนวนผู้เช่าพื้นที่รายย่อยที่ชัดเจน เพื่อกำหนดสัดส่วนการให้ความช่วยเหลือระหว่างเจ้าของห้างสรรพสินค้าและภาครัฐแก่ผู้เช่ารายย่อย โดยมอบให้นายเกียรติ และนางอัญชลี ประสานกับผู้ประกอบการและสำนักงบประมาณต่อไป

นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า หากภายหลังมีการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ประกอบการรายใดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ก่อการร้าย ทางภาครัฐจะยกเลิกมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งหมด และจะดำเนินคดีกับผู้ประกอบการรายนั้นต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ