(เพิ่มเติม1) ครม.ศก.ประเมินผลกระทบชุมนุมเสียหาย 5หมื่นลบ.-ออกมาตรการเยียวยา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 26, 2010 13:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันนี้ ได้ประเมินผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งหากการชุมนุมยืดเยื้อไม่เกิน 3 เดือน จะกระทบต่อจีดีพีประมาณ 0.64% คิดเป็นเม็ดเงินราว 5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นการประเมินจากคาดการณ์จีดีพีในปี 53 จะขยายตัวที่ 4.5%

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ศก.ยังเห็นชอบในหลักการมาตรการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และพื้นที่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.53 เป็นต้นมา พร้อมกับมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการใน 3 มาตรการสำคัญ คือ การบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง, การช่วยเหลือพนักงาน-ลูกจ้าง และการช่วยเหลือจากการสูญเสียรายได้ของกิจการ

1.มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง ได้แก่ มาตรการชะลอกระแสเงินสดจ่ายออก เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีเงินได้นิติบุคคล, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ตลอดจนค่าสาธารณูปโภค และเงินนำเข้าประกันสังคมออกไปอีก 180 วัน และมาตรการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ SMEs โดยจัดหาเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1-2 และมาตรการสนับสนุนวงเงินบัตรเครดิต โดยการลดหย่อนอัตราการผ่อนชำระและอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลง โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ

2.มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้าง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ถูกให้ออกจากงาน และ กลุ่มที่ขาดรายได้จากส่วนแบ่งการขายและบริการ โดยภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือพนักงานและลูกจ้างทั้ง 2 กลุ่มที่ถูกปลดออกจากงานระหว่างการชุมนุม โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน รวมทั้งนายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย และนางอัญชลี เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ตรวจสอบกลุ่มพนักงานที่ได้รับผลกระทบจริง เพื่อให้ทราบจำนวนผู้ถูกเลิกจ้างที่ชัดเจน และสามารถให้ความช่วยเหลือได้ภายในเดือนพ.ค.นี้

3.มาตรการช่วยเหลือผลกระทบจากการสูญเสียรายได้ของกิจการ โดยการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีโรงเรือน รวมทั้งแนวทางการชดเชยค่าเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการรายย่อยที่เช่าพื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าตรวจสอบจำนวนผู้เช่าพื้นที่รายย่อยที่ชัดเจน เพื่อกำหนดสัดส่วนการให้ความช่วยเหลือระหว่างเจ้าของห้างสรรพสินค้าและภาครัฐแก่ผู้เช่ารายย่อย โดยมอบให้นายเกียรติ และนางอัญชลี ประสานกับผู้ประกอบการและสำนักงบประมาณต่อไป

นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า หากภายหลังมีการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ประกอบการรายใดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ก่อการร้าย ทางภาครัฐจะยกเลิกมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งหมด และจะดำเนินคดีกับผู้ประกอบการรายนั้นต่อไป

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้พิจารณามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยการขยายเวลาการชำระภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล 180 วัน สำหรับพนักงาน ลูกจ้าง และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางการเมือง ส่วนภาษีโรงเรือน คาดว่าทางกรุงเทพมหานครจะรับพิจารณาได้

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จัดวงเงินเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่อง 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กประมาณ 2,000 ราย มีอัตราดอกเบี้ย MLR-3 โดยผู้มีสิทธิยื่นขอสินเชื่อจะต้องได้รับผลกระทบโดยตรงในพื้นที่ผ่านฟ้าลีลาศ และบริเวณราชประสงค์ ตั้งแต่ 14 มี.ค.เป็นต้นมา รวมถึงแนวทางพิจารณาชำระเงินกู้เงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน ซึ่งหากธนาคารพร้อมดำเนินการ คาดว่าจะนำเสนอ ครม.พิจารณาในวันพรุ่งนี้

สำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง กระทรวงการคลังจะมีการพิจารณารูปแบบการจ่ายเงินชดเชย โดยอาจเป็นการโอนเข้าเงินบัญชีลูกจ้างหรือจ่ายเป็นเช็ค โดยให้ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างแจ้งลงทะเบียนรับสิทธิดังกล่าวได้ที่กระทรวงแรงงาน โดยกระทรวงการคลังจะขอเวลาพิจารณาเพื่อประเมินจำนวนลูกจ้างที่ถูกกระทบ และวงเงินเพื่อจ่ายเงินชดเชย

"นายกฯพูดชัดว่า หากผู้ประกอบการให้การช่วยเหลือผู้ชุมนุม ก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และยังถูกดำเนินคดีด้วย" นายกรณ์ กล่าว

รมว.คลัง กล่าวเรียกร้องให้มีการยุติการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ เนื่องจากปัญหาการเมืองมีส่วนสำคัญที่สุดที่จะกระทบเศรษฐกิจไทย และในวันที่ 28 เม.ย.53 จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตเพื่อพบปะผู้ประกอบการในพื้นที่ หลังจากพบว่ามีการยกเลิกการจองห้องพักในโรงแรมต่างๆมากขึ้น แม้การชุมุนมจะเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่กลับส่งผลกระทบในพื้นที่จังหวัดอื่นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ