รัฐบาลจีนเดินหน้าใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินในตลาดอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ ด้วยการออกข้อกำหนดให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยื่นแผนการระดมทุนต่อหน่วยงานของรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้กระทรวงที่ดินและทรัพยากรตรวจสอบว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการใช้ที่ดินตรงตามข้อกำหนดหรือไม่
-- ธนาคารโลก และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงวอชิงตันแล้ว โดยที่ประชุมมีมติให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีสิทธิ์ออกเสียงเพิ่มขึ้นในธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนาการ (IBRD) อีก 3.13% เป็น 47.19%
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเผยจีนจะยังคงใช้นโยบายเชิงรุกด้านการคลัง และนโยบายการเงินแบบผ่อนปรน อีกทั้งจะปรับปรุงนโยบายให้สามารถตอบสนองต่อวิกฤตการเงินโลกเพื่อรักษาระดับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไว้ นอกจากนี้ นายโจวคาดว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านต่างๆ
-- นสพ.นิกเกอิรายงานว่า คะแนนสนับสนุนคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีในการสำรวจความคิดเห็นครั้งล่าสุดนี้ลดลงไป 12% จากผลการสำรวจเมื่อเดือนมี.ค. ส่วนคะแนนคัดค้านเพิ่มขึ้น 11 จุด มาอยู่ที่ 68%
-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวความแรง 6.6 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวันในวันนี้ ส่งผลให้อาคารต่างๆในกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 300 กิโลเมตร สั่นสะเทือนตามไปด้วย
-- นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) จะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือวันนี้และวันพรุ่งนี้ตามคำเชิญของเกาหลีเหนือเมื่อหลายเดือนที่แล้ว โดยผอ. WHO จะได้พบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีเหนือ รวมทั้งตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลและสถาบันด้านสุขภาพในประเทศ
-- รอยัล ดัทช์ เชลล์ พีแอลซี, บีพี พีแอลซี, เอ็กซอน โมบิล คอร์ป, เชฟรอน คอร์ป และบริษัทน้ำมันอีกหลายแห่ง กำลังถูกคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐ (FTC) ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนให้พนักงาน
-- สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัสเซียว่า เกิดเหตุแก๊สระเบิดในย่านที่พักอาศัยในกรุงมอสโกของรัสเซียในวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย
-- แคนนอน เผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกพุ่งกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หลังเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช่วยผลักดันให้ดีมานด์กล้องดิจิตอลและเครื่องใช้สำนักงานปรับตัวสูงขึ้น
-- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ของสิงคโปร์ทะยานขึ้น 43% จากปีที่แล้ว เพราะได้แรงหนุนจากผลผลิตสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดถึง 73.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากดีมานด์การส่งออกขยายตัว