หอการค้าสหรัฐ (AmCham) ในประเทศจีนชี้ การที่รัฐบาลสหรัฐเดินหน้ากดดันให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวนอย่างไม่ลดละถือเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมแนะรัฐบาลควรหันไปกดดันให้จีนแก้ปัญหาในประเด็นอื่น อาทิ การคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญา การปรับเปลี่ยนข้อบังคับด้านการจำกัดสิทธิ์ชาวต่างชาติในการเป็นเจ้าของธุรกิจ และการปรับลดอัตราจัดเก็บภาษี
คริสเตียน เมิร์ก ประธานหอการค้าสหรัฐประจำประเทศจีนกล่าวว่า สกุลเงินหยวนของจีนที่แข็งค่าขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้เกิดการจ้างงานได้อย่างมหาศาล อีกทั้งอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐเสมอไป ซึ่งผู้อำนวยการหอการค้าจะเดินทางไปยังสหรัฐในสัปดาห์หน้าเพื่อแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าว
เมิร์กกล่าวว่า การมุ่งเน้นที่ประเด็นดังกล่าวเพียงประเด็นเดียวอาจเป็นความผิดพลาด พร้อมกับชี้ว่า แม้เงินหยวนที่แข็งค่าอาจเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกสหรัฐ แต่ต้นทุนของผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่ต้องพึ่งพาแหล่งสินค้าจากจีนอาจพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ผลสำรวจที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้พบว่า 64% ของบริษัท 220 แห่งที่เป็นสมาชิกหอการค้าสหรัฐ ประเมินว่า หากเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 5% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็อาจไม่ส่งผลใดๆต่อพวกเขาในระยะยาว ขณะที่อีก 21% ของบริษัทที่เป็นสมาชิกหอการค้ากล่าวว่า การแข็งค่าของเงินหยวนจะช่วยกระตุ้นความสามารถด้านการทำกำไรได้ และอีก 7% มองว่า ปัจจัยเรื่องค่าเงินหยวนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทต้องทบทวนแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศจีนอย่างจริงจัง