นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ระบุว่ามีการทุจริตในการดำเนินโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง(แอร์พอร์ตเรลลิงค์) ส่งผลให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 1.2 พันล้านบาทนั้น เรื่องดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการเปิดใช้โครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีกำหนดจะเปิดให้บริการฟรีประมาณ 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.นี้
"เบื้องต้นเข้าใจว่ามีชื่อของผู้ว่าการรฟท.คนปัจจุบันเกี่ยวข้องด้วย แต่ในชั้นนี้ยังไม่จำเป็นต้องสั่งพักงาน เพราะคดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งผู้ว่าการมีฐานะเป็นลูกจ้าง ไม่ได้เป็นพนักงานรฟท. ส่วนผู้เกี่ยวข้องที่พ้นตำแหน่งไปแล้วคงต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย แต่ต้องดูรายละเอียดผลการวินิจฉัยของป.ป.ช.ก่อน" นายโสภณ กล่าว
อนึ่ง ป.ป.ช.ระบุว่า มีการทุจริตร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ 1.2 พันล้านบาท เพราะโครงการนี้ไม่มีการตรวจสอบวงเงินค่าธรรมเนียมตั้งแต่แรก โดยค่าธรรมเนียมการเงินที่ผู้รับเหมาตกลงกับ รฟท.คือ 1.6 พันล้านบาท และผู้รับเหมาได้เบิกเงินก้อนนี้จากธนาคารไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงค่าธรรมเนียมเงินกู้มีเพียง 400 ล้านบาทเท่านั้นและไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ที่ต้องจ่ายอีกเลย โดยส่วนต่างที่เกิดขึ้น 1.2 พันล้านบาทที่รฟท.ต้องรับผิดชอบจะไม่เกิดขึ้นถ้าทำสัญญาอย่างตรงไปตรงมา
รมว.คมนาคม กล่าวว่า การเปิดให้บริการแอร์พอร์ต เรลลิงค์ในเชิงพาณิชย์ คาดว่าจะเริ่มในช่วงกลางเดือนก.ค.นี้ โดยได้ให้นโยบายไปว่าควรมีส่วนลดค่าโดยสารให้กับพนักงาน บมจ.การบินไทย(THAI) และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. รวมทั้งบุคลากรที่ทำงานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
อัตราค่าโดยสารปกติในส่วนของรถไฟท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ CITY LINE จะเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท โดยจะจอดทุกสถานี ส่วนรถไฟฟ้าด่วนหรือ EXPRESS LINE จะไม่แวะจอดตามสถานีรายทาง คิดค่าบริการคนละ 150 บาท