เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ และร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การที่สหภาพยุโรป (อียู) จัดสรรเงินช่วยเหลือกรีซมูลค่า 4.5 หมื่นล้านยูโรนั้นจะไม่สามารถหยุดยั้งวิกฤตการณ์งบประมาณขาดดุลที่กำลังแผ่ขยายไปสู่ประเทศอื่นๆในยุโรปได้
นอกจากนี้ เงินยูโรยังเผชิญกับปัจจัยลบหลังจากที่นางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีประกาศว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่กรีซจนกว่าจะมีการกำหนดแผนการระยะยาวในการลดตัวเลขขาดดุลบัญชีงบประมาณ
ด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยนจากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มหาทางถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลายประการ
นอกจากนี้ นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในไตรมาสแรกมีแนวโน้มขยายตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากระดับ 1.6% ในไตรมาสก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ณ เวลา 10:27 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 125.52 เยน/ยูโร จากระดับ 125.73 เยน/ยูโรที่ตลาดนิวยอร์กวานนี้ และซื้อขายที่ 1.3381 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3383 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินดอลลาร์เทรดที่ 93.81 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 93.96 เยน/ดอลลาร์เมื่อวานนี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลเยอรมนีอาจขยายการให้ความช่วยเหลือแก่กรีซล่าช้า ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเริ่มเทขายเงินยูโรออกมา