นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ รวมถึงนักวิเคราะห์จากพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่กรอบ 0-0.25% ในการประชุมที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ และคาดว่าคณะกรรมการเฟดจะประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นด้วย
การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณการฟื้นตัวในหลายภาคส่วน รวมถึงตัวเลขจ้างงาน ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และภาคการผลิต ที่ขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.พุ่งสูงขึ้น 27% แตะระดับ 411,000 ยูนิตต่อปี และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.ที่ไม่นับรวมยอดสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งขยายตัวสูงเกินคาดที่ระดับ 2.8%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการที่อัตราว่างงานในสหรัฐมีแนวโน้มเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 10% ตลอดปีนี้ รวมทั้งการที่ธนาคารพาณิชย์ยังไม่สามารถปล่อยวงเงินกู้ได้ตามปกติ จนทำให้ยอดการกู้ยืมโดยรวมในสหรัฐลดลงนั้น อาจส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดการเงินและระบบเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้คณะกรรมการเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก
ทั้งนี้ เฟดระบุว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในสหรัฐหดตัวลง 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงเพียง 9 พันล้านดอลลาร์ และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 12 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคลดการกู้ยืมในช่วงที่เศรษฐกิจยังเผชิญกับภาวะที่ไม่แน่นอนและตลาดแรงงานยังซบเซา