คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของจีน (SASAC) ซึ่งดูแลบริษัทของรัฐกว่า 120 แห่ง ได้ออกกฎข้อบังคับให้บริษัทของรัฐบาลปกป้องข้อมูลความลับเชิงพาณิชย์ของบริษัทอย่างเข้มแข็ง โดยระบุถึงข้อมูลในวงกว้างตั้งแต่ข้อมูลด้านการเข้าซื้อหุ้นไปจนถึงข้อมูลด้านเทคโนโลยีในแขนงต่างๆ
การออกกฎข้อบังคับให้มีการปกป้องข้อมูลเชิงพาณิชย์ของจีนกลายเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลให้กับบริษัทต่างชาติ หลังจากนายสเติร์น หู ชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นอดีตพนักงานของบริษัท ริโอ ทินโต กรุ๊ป ถูกศาลจีนตัดสินจำคุก 10 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว ในข้อหาติดสินบนและจารกรรมข้อมูลด้านอุตสาหกรรม ขณะที่นายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า การพิพากษาตัดสินของจีนเป็นการดำเนินการที่ขาดความโปร่งใสและเต็มไปด้วยข้อกังขา
ทั้งนี้ SASAC กล่าวว่า บริษัททุกแห่งที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลจีนควรมีสำนักงานและพนักงานที่ได้รับมอบหมายโดยเฉพาะเจาะจงให้ปกป้องข้อมูลเชิงพาณิชย์ ซึ่งทางบริษัทควรจัดคอร์สฝึกอบรมเรื่องการรักษาความลับ และหากพนักงานคนใดทำข้อมูลของบริษัทรั่วไหลก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อมูลเชิงพาณิชย์ที่ควรเก็บเป็นความลับนั้น ครอบคลุมถึงการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการ ข้อมูลการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โมเดลทางธุรกิจ ธุรกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ข้อมูลด้านการเงิน และกระบวนการผลิต
สำหรับบริษัทจีนที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลนั้นมีอยู่มากกว่า 120 แห่ง รวมถึงปิโตรไชน่า โค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับสองของโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด, อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชีล แบงค์ ออฟ ไชน่า (ICBC) ไชน่า โมบาย, อลูมินัม คอร์ป ออฟ ไชน่า และสายการบินแอร์ ไชน่า