นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับองค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) เพื่อซักซ้อมการดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในการใช้มาตรการพยุงราคาข้าวว่า ได้สั่งการให้ อคส.และ อ.ต.ก. เร่งเพิ่มจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรให้ถึง 126 แห่ง ภายในวันที่ 29 เม.ย.นี้ จากปัจจุบันมีเพียง 96 แห่ง
นอกจากนี้ ต้องเร่งให้เปิดรับสมัครโรงสี หรือพ่อค้าที่จะเข้าโครงการแลกเปลี่ยนข้าวใหม่กับข้าวเก่าในสต๊อกรัฐบาล โดยจะให้สิทธิแลกเปลี่ยนข้าวสารกับโรงสีที่รับซื้อข้าวเปลือกนาปรังจากเกษตรกรในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.นี้ ในราคาสูงกว่าราคาอ้างอิงแต่ละสัปดาห์ตันละ 300 บาท ในสัดส่วน 1 ต่อ 1
"เชื่อว่าราคาข้าวจะปรับขึ้นต่อเนื่องหลังออกมาตรการดังกล่าว โดยหลังกขช.มีมติแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ราคาตลาดขณะนี้ขึ้นแล้วตันละ 300 บาท จาก 7,500 บาท เป็น 7,800 บาท และน่าจะขึ้นเป็น 8,000-8,500 บาทในเดือนหน้า หลังแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่องให้โรงสีที่ให้สีแปรข้าวได้ และเพิ่มราคาตั้งโต๊ะรับซื้อเพื่อแลกข้าวเก่า ที่ผ่านมาแม้โรงสีเปิดรับซื้อ 96 แห่ง แต่เปิดซื้อจริง 44 แห่ง ที่เหลืออ้างพื้นที่โกดังเก็บข้าวเปลือกเต็ม และรายได้น้อย เพราะได้แค่ค่าเก็บข้าวตันละ 75 บาท" นายยรรยงกล่าว