นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า (เอฟทีเอ) ผ่านกองทุนโครงการช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุนเอฟทีเอ) ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า ล่าสุดกลุ่มเกษตรกรโคเนื้อ ที่รวมตัวกันเป็น 4 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์โคเนื้อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จำกัด, สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลาง โพนยางคำ จำกัด, สหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัด สาขาปศุสัตว์ และสหกรณ์โคขุนสระแก้ว หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) จำกัด ได้เสนอรายละเอียดโครงการเพื่อขอรับความช่วยเหลือในระยะที่ 2 มาแล้ว ซึ่งเป็นการขยายผลต่อเนื่องจากโครงการในระยะแรก
สำหรับโครงการระยะที่ 2 ตั้งเป้าหมายผลักดันการส่งออกเนื้อโคขุน และโคมีชีวิตไปประเทศจีน กัมพูชา รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในอนาคต เช่น เวียดนาม ขณะเดียวกัน มีแผนจะพัฒนาระบบแฟรนไชส์ ร้านขายเนื้อ และร้านสเต็ก เพื่อเพิ่มช่องทางขายเนื้อโค ให้กับสหกรณ์โคเนื้อ รวมทั้งจะขยายความเข้มแข็งของคลัสเตอร์โคเนื้อ ไปยังกลุ่มผู้เลี้ยงโคต้นน้ำ (ผู้เลี้ยงลูกโค แม่โค โคก่อนขุน) รวมกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุนของสหกรณ์การเกษตรหนองสูง และสหกรณ์โคขุน สระแก้ว นทพ. เพื่อกระตุ้นให้ร่วมกันผลิตเนื้อโคที่มีคุณภาพ และปริมาณเพียงพอกับความต้องการ
"หากดำเนินการได้ตามนี้ จะสามารถสร้างความเข้มแข็งเชิงรุก และช่วยทำให้อุตสาหกรรมโคเนื้อของไทยสามารถแข่งขันกับการเปิดเสรีทางการค้าได้อย่างแน่นอน" นางสาววิบูลย์ลักษณ์ กล่าว