สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากมีข่าวว่าสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อของโปรตุเกสและกรีซ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,162.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,146.60-1,173.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 21.80 เซนต์ ปิดที่ 18.119 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนพ.ค.ลดลง 1.65 เซนต์ ปิดที่ 3.36 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,720.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 24.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 548.95 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 17.45 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล รีเสิร์ช ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่วิกฤตเศรษฐกิจมีแนวโน้มลุกลามไปทั่วยุโรป โดยเฉพาะเมื่อเอสแอนด์พี ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ "ระดับขยะ" หรือ "junk status" และลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 2 ขั้น สู่ระดับ A- จากระดับ A+
ขณะที่สัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ายอดขายรถยนต์ในญี่ปุ่นและสหรัฐจะพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากแร่พัลลาเดียมและพลาตินัมเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในชิ้นส่วน catalytic converters ภายในรถยนต์
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,146.216 ตัน ณ วันที่ 26 เม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับของวันที่ 22 เม.ย.ที่ 6.088 ตัน