สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ณ เวลา 10.31 น.ตามเวลาฮ่องกงในวันนี้ ค่าเงินวอนดีดตัวขึ้น 0.3% แตะที่ 1,115.30 วอน/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินริงกิตมาเลเซียพุ่งขึ้น 0.4% แตะที่ 3.2052 ริงกิต/ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยหนุนราคาโลหะพื้นฐานทะยานขึ้น โดยราคาแร่ทองแดงพุ่งขึ้น 1.6% แตะที่ 7,520 ดอลลาร์/ตัน ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้นมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถชดเชยภาวะถดถอยที่เป็นผลมาจากวิกฤตการณ์หนี้สินในยุโรปและการฟื้นตัวที่เป็นไปอย่างล่าช้าในสหรัฐได้ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 7.1% ใปนี้และปีหน้า เนื่องจากดีมานด์สินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขยายตัวขึ้น
ค่าเงินยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ และให้แนวโน้มเชิงลบ โดยระบุว่าสถานะการคลังของสเปนถดถอยลง และเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง ขณะที่เยอรมนีออกมาเรียกร้องให้มีการใช้แผนกู้วิกฤตกรีซ หลังจากเอสแอนด์ลดอันดับเครดิตกรีซลงสู่ระดับขยะ