นายโฮเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ ซาปาเทโร นายกรัฐมนตรีสเปนกำลังเผชิญแรงกดดันระลอกใหม่ในการปรับลดยอดขาดดุลบัญชีงบประมาณ หลังอัตราว่างงานของสเปนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 20% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
สถาบันสถิติแห่งชาติของสเปนระบุว่า อัตราว่างงานในไตรมาสแรกขยายตัวแตะระดับ 20.1% จากระดับ 18.8% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา นับเป็นอัตราว่างงานที่สูงสุดในกลุ่มยูโรโซนและมากกว่าอัตราเฉลี่ยของสหภาพยุโรป (อียู) ถึงสองเท่า
ทั้งนี้ ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่า รัฐบาลจะพยายาควบคุมยอดขาดดุล โดยเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับเครดิตของสเปนลง พร้อมระบุว่า รัฐบาลประเมินปัญหาการเงินในประเทศต่ำเกินไป ในขณะที่ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสูงเกินไป อีกทั้งยังมีการเพิ่มตัวเลขใช้จ่ายภาครัฐ ด้วยการจ่ายสวัสดิการสำหรับผู้ว่างงานระยะยาวมากขึ้น
นอกจากนี้ เอสแอนด์พีมองว่า อัตราว่างงานของสเปนจะพุ่งสู่ระดับ 21% ในปีนี้ และเศรษฐกิจสเปนจะขยายตัวได้ในอัตราเฉลี่ยที่ 0.7% ต่อปีจนถึงปี 2559
สเปนได้ให้คำมั่นที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณจากระดับ 11.2 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงสุดอันดับ 3 ในกลุ่มยูโรโซน ลงสู่เกณฑ์ที่อียูกำหนดไว้ไม่เกิน 3% ภายในปี 2556 ขณะที่เอสแอนด์พีคาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสเปนจะยังคงอยู่เหนือระดับ 5% ในช่วงเวลาดังกล่าว