กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 3.2% ต่อปี แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 3.4% ต่อปี และต่ำกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่ขยายตัว 5.6% ต่อปี
กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การเปิดเผยจีดีพีไตรมาสแรกปี 2553 เมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) นับเป็นการประมาณการครั้งแรก โดยปัจจัยหนุนจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวมาจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ดีดตัวขึ้น 3.6% ทำสถิติขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 และมากกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวเพียง 16%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ผู้บริโภคอาจลดการใช้จ่ายลงเนื่องจากอัตราว่างงานในสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับสูงถึง 9.7% และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ คาดว่ารายได้ที่ชะลอตัวลงและการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้นของผู้บริโภค อาจทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายลดลงด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดส่งออกไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวในอัตรา 5.8% ต่อปี น้อยกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่ขยายตัว 22.8% ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 8.9% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์ของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3.1% ในปีนี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวอันเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำนักข่าวซินหัวรายงาน