ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และเยอรมนี ได้แสดงออกอย่างจริงจังในเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่ากรีซจะรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐระบุเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.3313 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3224 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.06% แตะที่ 1.5311 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5320 ปอนด์/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.940 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 94.010 เยน/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.77% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0759 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0842 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.15% แตะที่ 0.9256 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9270 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.51% แตะที่ 0.7271 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7234 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรมากขึ้น หลังจากเยอรมนียืนยันว่ากรีซไม่ถูกปล่อยให้ล้มละลายจนกลายเป็นสาเหตุของวิกฤตการณ์การเงินในระบบแบบเดียวกับเลห์แมน บราเธอร์ส พร้อมกับเรียกร้องให้ไอเอ็มเอฟ อียู และหน่วยงานที่สำคัญอื่น เร่งเจรจาเพื่อกู้วิกฤตการเงินของยุโรป หลังจากกรีซ โปรตุเกส และสเปน ถูกสแตนดารด์ แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างอียู ไอเอ็มเอฟและรัฐบาลกรีซ ที่มีเป้าหมายจะสรุปเงื่อนไขมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของอียูและไอเอ็มเอฟได้เจรจาหารือร่วมกันกับรัฐบาลกรีซเกี่ยวกับเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้รัฐบาลกรีซลดเงินเดือนและงบการเบิกจ่ายของข้าราชการพลเรือนลงอีก 10% และให้เลย์ออฟพนักงานในหน่วยงานที่มีแผนจะถูกปิด นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้มีการลดเงินเดือนและโบนัสของพนักงานบริษัทเอกชน รวมถึงโบนัสช่วงเทศกาลคริสต์มาส อีสเตอร์ และวันหยุดฤดูร้อน อีกทั้งแนะนำให้รัฐบาลกรีซปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 23%
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 3.2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 3.4% ต่อปี และต่ำกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่ขยายตัว 5.6% ต่อปี
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ เพิ่มขึ้น 1.5% ต่อปีในเดือนเม.ย. จากระดับ 1.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 2% ที่ธนาคารกลางยุโรปกำหนดไว้ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ต่อไปจนถึงปีหน้า
ขณะเดียวกัน ยูโรสแตทยังได้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมี.ค.ในยูโรโซนว่า ยังคงทรงตัวที่ 10% จากเดือนมี.ค. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.2541 ที่อัตราว่างงานสูงแตะระดับตัวเลขสองหลัก อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานล่าสุดสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด