สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ในไตรมาสแรกปีนี้ ทำให้นักลงทุนแห่ถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 11.90 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,180.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1181.0-1175.5 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 18.639 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ดีดขึ้น 0.3 เซนต์ ปิดที่ 3.3535 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 11.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,745.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 6.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 555.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรมากขึ้นหลังจากสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และรัฐบาลกรีซ ร่วมประชุมเพื่อกำหนดแผนการให้ความช่วยเหลือกรีซ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ถูกกดดันอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเปิดเผยจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 3.2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 3.4% ต่อปี และต่ำกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่ขยายตัว 5.6% ต่อปี
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำแท่ง 1,159.002 ตัน ณ วันที่ 29 เม.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์