นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้ว่าการสำรองของไทยในธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เดินทางเข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 43 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองทาซแคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน ช่วงวันที่ 1-4 พ.ค.53
การประชุมผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชียจาก 12 กลุ่มออกเสียงในธนาคารพัฒนาเอเชีย ไทยเข้าร่วมในฐาะตัวแทนของกลุ่มออกเสียงของไทย ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม เนปาล มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศไทย โดยที่ประชุมสรุปว่า เศรษฐกิจของเอเชียได้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและฟื้นตัวได้เร็วกว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่น แต่เศรษฐกิจเอเชียยังเผชิญกับความเสี่ยงของการฟื้นตัวเศรษฐกิจในอีกหลายด้าน เช่น ความยั่งยืนของการเติบโตทางเศรษฐกิจภายหลังจากหลายประเทศถอนนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ (Exit Strategy) ความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย ความไม่สมดุลของการเติบโตระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความท้าทายในการลดความยากจนในภูมิภาค
ปลัดกระทรวงการคลังของไทย ได้กล่าวถึงความท้าทายของเศรษฐกิจโลกในการรักษาความยั่งยืนทางการคลังภายหลังจากประเทศต่างๆ ได้ใช้นโยบายทางการคลังแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และได้เรียกร้องให้ ADB ช่วยสนับสนุนแนวทางในการระดมทุนที่จะช่วยลดภาระการคลัง ให้แก่ประเทศสมาชิก เช่น การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnerships: PPP) เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยและ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุนในประเทศเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้าร่วมในการลงทุน นอกจากนี้ได้กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคภายใต้ ASEAN และ ASEAN +3 ตลอดจนบทบาทของ ADB ในการสนับสนุนการค้าขายและลงทุนระหว่างกันในภูมิภาค (Intraregional Trade and Investment) และเสริมสร้างการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนของประเทศสมาชิก