นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศเลือกตั้งใหม่ในเดือน พ.ย.53 นั้น ขณะที่ภารกิจสำคัญของกระทรวงการคลังที่ยังต้องดำเนินการต่อจากนี้ คือการเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือน ก.ย.53 โดยจะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวันที่ 24 พ.ค.53
"ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะยอมรับข้อเสนอหรือไม่...หากไม่มีงบปี 54 จะต้องใช้งบปี 53 ซึ่งเป็นปีที่มีงบน้อย เพราะเป็นการพิจารณางบประมาณช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงต้องผ่านขั้นตอนงบประมาณในปีต่อไปก่อน"นายกรณ์ กล่าว
นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีภารกิจสำคัญในการดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งขณะนี้การเบิกจ่ายงบประมาณเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่กำหนดไว้แล้ว และคาดว่าจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 53 จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณในทุกโครงการลงทุนได้
สำหรับการแก้ไขหนี้นอกระบบ ลูกหนี้ทุกรายจะต้องดำเนินแก้ไขหนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.53 โดยการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในทุกจังหวัดภายในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะเริ่มการโอนหนี้นอกระบบเข้าสู่หนี้ในระบบ ขณะที่ยังมีปัญหาของลูกหนี้นอกระบบบางรายที่ไม่มีผู้ค้ำประกันหนี้ให้ ซึ่งเป็นปัญหาที่คลังจะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
รมว.คลัง ยังกล่าวถึงราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในขณะที่กระทรวงพลังงานเตรียมให้กระทรวงการคลังออกมาตรการมาอุดหนุนว่า หากมีความจำเป็นกระทรวงการคลังพร้อมพิจารณาช่วยเหลือ แต่ขณะนี้กระทรวงการพลังงานยังไม่มีการส่งเรื่องนี้มา