สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 22 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาทองคำเพราะเชื่อว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนักอันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 22.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,197.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังากเคลื่อนตัวในช่วง 1,173.00-1,211.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 17.515 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.90 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 3.45 เซนต์ ปิดที่ 3.117 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,666.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 16.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 514.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.55 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากธนาคาร HSBC ในนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนยังคงแห่ถือครองทองคำเพราะเชื่อว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง เนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซอาจลุกลามในวงกว้างและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง 998.5 จุด หรือ 9.19% สู่ระดับต่ำกว่า 10,000 จุดในระหว่งวัน ซึ่งเป็นการร่วงลงในระหว่างวันที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนราคาทองคำในตลาดยุโรปพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ เนื่องจากการร่วงลงของสกุลเงินยูโรได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อปกป้องฐานเงินทุนของตนเอง นอกจากนี้มีรายงานว่า กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ กองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,166.02 ตัน ณ วันที่ 5 พ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับของวันที่ 29 เม.ย.ที่ 1,159.002 ตัน