ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียดิ่งลงถ้วนหน้าในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific Index ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์หนี้สินในยุโรปอาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ณ เวลา 10.08 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ดิ่งลง 1.9% แตะระดับ 117.59 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดร่วง 433.91 จุด หรือ 2.16% แตะที่ระดับ 19,699.5 จุด ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 400.06 จุด หรือ 3.74% สู่ระดับ 10,295.63 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดร่วงลง 1.96% แตะ 2,685.99 จุด ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดตลาดลบ 60.59 จุด แตะที่ 2,779.06 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดตลาดร่วง 186.21 จุด แตะที่ 7,393.27 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดตลาดดิ่งลง 31.20 จุด แตะที่ 4,542.00 จุด
นักวิเคราะห์จากเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ส กล่าวว่า กระแสความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้กรีซจะลุกลามในวงกว้างและอาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำเทขายหุ้นอย่างหนัก โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง 998.5 จุด หรือ 9.19% สู่ระดับต่ำกว่า 10,000 จุดในระหว่างวัน ซึ่งเป็นการร่วงลงในระหว่างวันที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดเหนือระดับ 10,000 จุด
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยหลังจากอีซีบีได้แถลงก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางจะยังคงยอมรับพันธบัตรรัฐบาลกรีซในฐานะหลักทรัพย์ค้ำประกันต่อไป แม้ว่าสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำอย่าง สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของกรีซลงสู่ระดับไม่น่าลงทุน หรือระดับขยะ (junk status) ก็ตาม
หุ้นแคนน่อนดิ่งลง 4.6% หุ้นพานาโซนิกซึ่งมีรายได้จากตลาดยุโรปร้อยละ 12 ร่วงลง 4.5% หุ้นมาสด้า มอเตอร์ ซึ่งมีรายได้จากตลาดยุโรปร้อยละ 21 ดิ่งลง 4.1%
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอังกฤษเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ดิ่งลง 2.5% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ร่วงลง 0.8%