กลุ่มประเทศ G7 ซึ่งประกอบไปด้วยอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในวันนี้ เพื่อแสดงความชื่นชมที่ประชุมรมว.คลังสหภาพยุโรป (อียู) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ใช้มาตรการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านการเงินในยุโรป
รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G7 กล่าวในแถลงการณ์ร่วมว่า รู้สึกยินดีที่ชาติสมาชิกยุโรปร่วมมือกันสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านการเงินและป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์การเงินลุกลาม และยินดีที่เฟดตัดสินใจจัดตั้งกองทุนสว็อปค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วมกับธนาคารรายใหญ่ในยุโรป
รัฐมนตรีคลังกลุ่มอียูมีมติจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพยุโรป (European Stabilization Mechanism) คิดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5 แสนล้านยูโร หรือ 6.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้กรีซลุกลามไปทั่วภูมิภาคและบั่นทอนเสถียรภาพของสกุลเงินยูโร
นอกจากนี้ เฟดประกาศตั้งกองทุนสว็อปสกุลเงินดอลลาร์ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านการเงินในตลาดยุโรป ซึ่งตามข้อตกลงนั้น เฟดจะอัดฉีดเงินกู้เข้าสู่ตลาดการเงินของประเทศเหล่านี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การร่วมมือกันของธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกในครั้งนี้ คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกหลังจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส เมื่อเดือนก.ย.2551 ซึ่งในครั้งนั้น เฟดได้ร่วมมือกับธนาคารกลางแคนาดา อังกฤษ ยุโรป และสวิส จัดตั้งกองทุนสว็อปค่าเงินในแบบเดียวกัน