นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า อัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือ เอฟที มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาต้นทุนเชื้อเพลิงที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยในช่วงที่ผ่านมา กฟผ.ต้องแบกรับค่าต้นทุนค่าเอฟที ให้ประชาชนคิดเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทแล้ว
ส่วนจะมีการปรับขึ้นค่าเอฟทีหรือไม่ จะต้องรอนโยบายของรัฐบาล หลังจากสิ้นสุดนโยบายตรึงราคาค่าเอฟที ที่จะสิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคมนี้ก่อน แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะพิจารณาด้วยความเหมาะสม
ขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น แต่คาดว่าจะไม่ปรับตัวสูงกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ที่ระดับ 23,900 เมกกะวัตต์ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดจะเกิดในช่วงหน้าร้อนของทุกปี ซึ่งขณะนี้กำลังจะผ่านไปแล้ว
นายสุทัศน์ กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์การสำรองไฟฟ้าในอนาคต ที่จะปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 15% เนื่องจากอาจจะไม่สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้นได้ตามแผน เนื่องจากติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การไม่ยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ก่อสร้าง