สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและแห่เข้าเทรดในตลาดหุ้นเนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ตัดสินใจใช้มาตรการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.60 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,200.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,184.40-1,207.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 10.10 เซนต์ ปิดที่ 18.552 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 8.35 เซนต์ ปิดที่ 3.2280 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,693.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 27.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 524.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.30 ดอลลาร์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากไอเอ็มเอฟและชาติสมาชิกยุโรปผนึกกำลังใช้มาตรการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สินของกรีซลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรปและทั่วโลก ข่าวดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและหันเข้าซื้อขายในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า รวมถึงตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากอาร์บีซี โกลบอล ฟิวเจอร์ส เชื่อมั่นว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อทองคำอย่างหนาแน่นอีกครั้ง เพราะยังไม่เป็นที่แน่นอนว่ามาตรการเงินกู้ฉุกเฉินครั้งนี้มากพอที่จะแก้ไขปัญหายอดขาดดุลงบประมาณของกรีซได้หรือไม่
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถือครองทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,188.498 ตัน ณ วันที่ 7 พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.711 ตัน จากระดับของวันที่ 6 พ.ค.ที่ 1,185.787 ตัน