ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ รับข่าว IMF-EU ใช้มาตรการกู้วิกฤตหนี้ยุโรป

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 11, 2010 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโรมากขึ้น หลังจากชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ตัดสินใจใช้มาตรการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์การเงินของกรีซลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2791 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2759 ยูโร/ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.46% แตะที่ 1.4868 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4800 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 1.76% แตะที่ 93.170 เยน/ดอลลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 91.560 เยน/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.21% แตะที่ 1.1098 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1075 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.675 แตะที่ 0.9028 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.8880 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.20 ดอลลาร์ แตะที่ 0.7228 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7142 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินยูโรเพราะเริ่มมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของเศรษฐกิจยุโรปมากขึ้น หลังจากที่ประชุมชาติสมาชิกอียูอนุมัติเงินกู้ใหม่ให้กรีซมูลค่า 5.60 แสนล้านดอลลาร์ และลงมติอนุมัติเงินกู้ 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ได้มีการเจรจาไปก่อนหน้านี้ โดยมีเงื่อนไขว่ารัฐบาลกรีซจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังอนุมัติเงินกู้มูลค่า 3.21 แสนล้านดอลลาร์โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาหนี้สินของกรีซลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรปและทั่วโลก ทั้งนี้ วงเงินกู้ฉุกเฉินที่ทั้งอียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซรวมกันแล้วสูงเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตั้งกองทุนสว็อปสกุลเงินดอลลาร์ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านการเงินในตลาดยุโรป ซึ่งตามข้อตกลงนั้น เฟดจะอัดฉีดเงินกู้เข้าสู่ตลาดการเงินของประเทศเหล่านี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเหมือนกับที่เคยดำเนินการในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกเมื่อปี 2551-2552 ธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และยังคงเป้าหมายการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการฟื้นฟู เพื่อให้เศรษฐกิจกลับสู่ภาวะที่มีการขยายตัวแข็งแกร่ง

ธนาคารกลางของเยอรมนี เปิดเผยว่ายอดส่งออกของเยอรมนีพุ่งขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนสู่ 7.90 หมื่นล้านยูโร (1.06 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2535 ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 11.0% สู่ระดับ 6.57 หมื่นล้านยูโร ซึ่งทำให้เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้ากับประเทศอื่นๆทั่วโลกมูลค่า 1.33 หมื่นล้านยูโรในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ที่ระดับ 1.21 หมื่นล้านยูโร

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมี.ค. ตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนเม.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ