สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่าเม็ดเงินลงทุนในโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศจีนระหว่างเดือนม.ค.-เม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะที่ 9.932 แสนล้านหยวน
โดยการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์คิดเป็นเงิน 6.854 แสนล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีสัดส่วน 69% ของการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว จีนมีโครงการที่อยู่อาศัยที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างบนพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 2.646 พันล้านตารางเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 31.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าของโครงการมียอดการกว้านซื้อที่ดิน 91.83 ล้านตารางเมตรทั่วประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้น 26.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีโครงการก่อสร้างที่แล้วเสร็จบนเนื้อที่ 150.2 ล้านตารางเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ จีนมียอดขายบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 234 ล้านตารางเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 32.8% ต่อปี โดยพื้นที่และรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในอัตรา 30.3% และ 55.4% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ราคาอสังหาริมทรัพย์ใน 70 เมืองขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ของจีนในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยราคาที่อยู่อาศัยในโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่เพิ่มขึ้น 15.4% ต่อปี
ทั้งนี้ จำนวนเงินทุนของเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 59.9% แตะที่ 2.1603 ล้านล้านหยวน ซึ่งที่มาของเงินจำนวนดังกล่าวประกอบด้วยเงินกู้ของธนาคารในประเทศที่ 4.552 แสนล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 39.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเงินทุนที่ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หามาได้เองจำนวน 7.459 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 52.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี รวมถึงเงินทุนจากช่องทางอื่นๆอีก 9.454 แสนล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 81.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี