ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยรายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 53 คาดว่าจะขยายตัว 4.5-5.5% เป็นผลหลักๆ จากการขยายตัวที่เกินกว่าคาดมากของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/53 ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวกว่า 9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวของการส่งออกและการท่องเที่ยว ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ประกอบกับฐานตัวเลขเศรษฐกิจที่ต่ำมากต้นปีที่แล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าการขยายตัวจะชะลอลงในไตรมาสที่เหลือของปี จากการแผ่วลงของการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลประเทศต่างๆ และแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มาจากการผลิตเพื่อเพิ่มสินค้าคงคลัง ประกอบกับการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อันเป็นผลจากการวุ่นวายทางการเมือง
ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองหากยังคงยืดเยื้อและลุกลาม อาจทำให้การท่องเที่ยวหดตัวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 53 และอาจส่งผลให้การแก้ไขปัญหามาบตาพุดล่าช้าออกไปอีก และปัญหาการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ แม้โอกาสที่จะเกิดการกีดกันทางการค้ามีไม่มากนัก แต่หากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลต่อเนื่องแบบลูกโซ่ทั้งทางตรงและอ้อมต่อการค้าโลกและประเทศต่างๆ ส่งผลให้ไทยที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าอาจปรับขึ้นช้าๆ ราว 0.50% ในปีนี้ โดยอาจปรับขึ้นครั้งแรกเดือน ก.ค. ด้วยสัญญาณล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่บ่งบอกถึงความต้องการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับที่ต่ำผิดปกติในปัจจุบัน ซึ่งกำลังส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ คาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดเดือน ก.ค. นี้ จากมุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อและความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อและลุกลามเกินกว่าที่คาด
ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ คาดว่าจะปรับสูงขึ้นเป็น 1.1%และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.9% ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ของราคาน้ำมัน และจากฐานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ต่ำในช่วงต้นปี 52 โดยเงินเฟ้อจะสูงสุดในไตรมาส 1/53 และทรงตัวในไตรมาส 2/53 เป็นผลจากการยกเลิกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านน้ำประปาสิ้นเดือน มี.ค.หลังจากนั้นคาดว่าจะค่อยๆ ปรับลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะมองว่ารัฐบาลจะยกเลิกมาตราการที่เกี่ยวกับก๊าซ LPG สำหรับอุตสาหกรรมแต่จะยืดอายุมาตรการอื่นๆ ที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. และ ส.ค. นี้ ออกไปอีก
ด้านค่าเงินบาท มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นกว่าที่คาด โดยเคยคาดว่าจะถึง 31 บาท/ดอลลาร์ภายในปี 53 เพราะการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/53 กว่า 9% จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เทียบกับเงินสกุลหลักในเอเชียที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวตาม เช่น เกาหลีวอน และสิงคโปร์ดอลลาร์
SCB EIC เสนอแนะให้จับตาดูแถลงการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งต่อไป ในวันที่ 2 มิ.ย.53 รวมถึงรัฐบาลจะต่ออายุมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพออกไปอีกหรือไม่ หากมีการยกเลิกมาตรการจะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1% รวมถึงติดตามรายงานและมาตรการของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ต่อเรื่องการบิดเบือนค่าเงินของจีน โดยอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับหยวน