สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อันเป็นผลมาจากความไม่มั่นใจว่ามาตรการเงินกู้ฉุกเฉินจะสามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซและป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามไปทั่วยุโรปได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 19.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,201.50-1,235.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 19.294 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 74.20 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 8.35 เซนต์ ปิดที่ 3.2280 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,700.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 532.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากอาร์บีซี โกลบอล ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า กระแสความวิตกกังวลที่ว่ามาตรการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่าเกือบ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) อาจไม่สามารถป้องกันวิกฤตการณ์การเงินยุโรปได้ ทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่ามาตรการเงินกู้ฉุกเฉิน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์อาจส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อตามมา และมีความเป็นไปได้สูงว่า โปรตุเกส สเปน และไอร์แลนด์ จะเผชิญวิกฤตการณ์การเงินไม่ต่างไปจากกรีซ
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,192.150 ตันเมื่อวันจันทร์ที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จากระดับของวันที่ 7 พ.ค.ที่ 1,188.498 ตัน
ข้อมูลจากสภาทองคำโลกบ่งชี้ว่า กองทุน SPDR Gold Trust มีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก รองจากฝรั่งเศสที่มีทองคำสำรองอยู่ 2,435 ตัน