คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของจีน (Assets Supervision and Administration Commission: SASAC) เรียกร้องให้กลุ่มผู้ประกอบการรัฐวิสาหกิจดำเนินการตามข้อกำหนดใหม่ด้านการใช้พลังงาน เพื่อให้ภารกิจลดปริมาณการแพร่กระจายมลพิษบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทระยะ 5 ปีฉบับที่ 11 (ระหว่างปี 2549-2553)
นับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อัตราการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า ปิโตรเคมี ถ่านหิน และวัสดุก่อสร้างฟื้นตัวเพิ่มขึ้นมากจากที่เคยปรับตัวลดลง ขณะที่ปริมาณการใช้พลังงานในกลุ่มบริษัทโลหะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการใช้พลังงานจำนวนมากของผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ รวมไปถึงกำลังการผลิตที่ล้าสมัย อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการบางส่วนมีอำนาจในการบริหารจัดการและดำเนินการตามข้อกำหนดด้านการประหยัดพลังงานและลดการแพร่กระจายมลพิษ
-- ซู จิง ประธานฝ่ายข้อมูลสถิติของสถาการไฟฟ้าจีนคาดการณ์ว่า อัตราการใช้พลังงานของจีนอาจขยายตัวได้กว่า 20% ในเดือนเม.ย. เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมหนัก และภาคอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก
โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมหนัก เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และมีแนวโน้มว่าจะยังเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญที่เป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นให้อัตราการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ การใช้เครื่องปรับอากาศอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นด้วย หลังจากที่อุณหภูมิในเดือนเม.ย.ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่พื้นที่ตอนเหนือของจีนยุติการผลิตพลังงานความร้อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน