นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แนะนำให้กลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรดำเนินการปฏิรูปความร่วมมือด้านงบประมาณแบบข้ามแดนและการกำกับดูแลทางเศรษฐกิจภายในกลุ่ม พร้อมกับชี้ว่า กลไกในการโยกย้ายเงินในระยะสั้นระหว่างประเทศสมาชิกจะเป็นหนทางในการเลี่ยงวิกฤต
กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟกล่าวกับไฟแนนเชียล ไทม์ส ว่า สิ่งที่จำเป็นก็คือ เครื่องมือและการควบคุมตรวจสอบการทำธุรกรรมจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งได้อย่างรัดกุมขึ้น
การแสดงความเห็นของนายสเตราส์-คาห์น เกิดขึ้นหลังจากที่เงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ โดยเงินยูโรอ่อนตัวลงต่ำกว่าระดับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนที่สหภาพยุโรปจะทำข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉิน 5 แสนล้านปอนด์ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาด้านการเงินในยูโรโซน
รัฐมนตรีคลังกลุ่มอียูมีมติจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพยุโรป (European Stabilization Mechanism) คิดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5 แสนล้านยูโร หรือ 6.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้กรีซลุกลามไปทั่วภูมิภาคและบั่นทอนเสถียรภาพของสกุลเงินยูโร
นอกจากนี้ เฟดประกาศตั้งกองทุนสว็อปสกุลเงินดอลลาร์ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านการเงินในตลาดยุโรป ซึ่งตามข้อตกลงนั้น เฟดจะอัดฉีดเงินกู้เข้าสู่ตลาดการเงินของประเทศเหล่านี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่