ซู จิง ประธานฝ่ายข้อมูลสถิติของสถาการไฟฟ้าจีนคาดการณ์ว่า อัตราการใช้พลังงานของจีนอาจพุ่งสูงกว่า 20% ในเดือนเม.ย. เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมหนัก และภาคอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานมาก
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า อัตราการผลิตไฟฟ้าของจีนในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 21.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะที่ 3.316 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ทะยานขึ้น 21.5% ต่อปีแตะที่ 1.28 ล้านล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมหนัก เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่ใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะยังเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญที่เป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นให้อัตราการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นในเดือนเม.ย. ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมที่มีอัตราการใช้ไฟฟ้าสูงอาทิ อุตสาหกรรมเคมี วัสดุก่อสร้าง โลหะ มียอดการใช้ไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 44.9% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศจีน ขณะที่สัดส่วนของการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 42.4% ในจีนเมื่อช่วงเวลาดังกล่าวนั้น มาจากภาคอุตสาหกรรมย่อย 4 กลุ่ม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า ในเดือนเม.ย.การขยายตัวของอัตราการใช้พลังงานในภาคตะวันออกของจีนจะยังคงขยายตัวช้ากว่าทางภาคตะวันตก
ขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจถูกนำมาพิจารณาว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้พลังงานในจีนในปีนี้ โดยรัฐบาลจีนพยายามอย่างมากที่จะควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์และควบคุมกำลังการผลิตที่ล้าสมัยในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งผลกระทบของมาตรการเหล่านี้จะส่งผลต่อการใช้พลังงาน โดยเฉพาะจากภาคอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือนพ.ค.หรือมิ.ย. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนจากการพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก มาเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่า สัดส่วนการใช้ไฟฟ้าของจีนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเหลือครึ่งหนึ่งหรือลดลงต่ำกว่าครึ่งของปริมาณการใช้ไฟฟ้าตลอดทั้งปี