กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนได้เข้าถือครองพันธบัตรสหัฐเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 8.952 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ซึ่งทำให้นักลงทุนและเจ้าหน้าที่สหรัฐผ่อนคลายจากความวิตกกังวลที่ว่าความต้องการพันธบัตรสหรัฐจากต่างประเทศลดลงอาจทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร
ข้อมูลของกระทรวงการคลังระบุว่า ยอดถือครองพันธบัตรสหรัฐโดยต่างชาติเพิ่มขึ้น 3.5% สู่ระดับ 3.88 ล้านล้านดอลลาร์ โดยจีนเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุด รองลงมาคือญี่ปุ่นที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 7.849 แสนล้านดอลลาร์
การที่ต่างชาติถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้นมาจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ นักลงทุนมองว่าพันธบัตรสหรัฐเป็นการทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดวิกฤตหนี้สินในยุโรป และการที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐ
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับว่ารัฐบาลกรีซและอีกหลายประเทศในยุโรปจะไม่สามารถชำระหนี้สาธารณะได้ตามกำไนด แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้ว สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศให้เงินกู้ฉุกเฉินกับกรีซมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้บรรดาผู้ถือพันธบัตรยุโรปเชื่อมั่นในความปลอดภัยก็ตาม
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวในอัตรา 3.2% ต่อปี ในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 ปี