บมจ.ปตท (PTT) และ บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม (BCP)ประกาศปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิด ลิตรละ 40 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันพรุ่งนี้(19 พ.ค.) เป็นต้นไป
ดังนั้น ส่งผลให้ราคาราคาน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 91 ลิตรละ 36.04 บาท, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30.74 บาท, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 32.24 บาท, E20 ลิตรละ 29.94 บาท ,E85 ลิตรละ 19.92 บาท, น้ำมันดีเซล(B2) ลิตรละ 29.09 บาท และไบโอดีเซล(B5) ลิตรละ 27.89 บาท
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในสหภาพยุโรป ส่งผลให้ประเทศทั้งหลายที่ประสบปัญหาภาระขาดดุลจำเป็นต้องลดการใช้จ่ายของภาครัฐลงในระยะยาว จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มยุโรปและของโลกในที่สุด โดยความกังวลดังกล่าวได้สะท้อนออกมาให้เห็นจากแรงเทขายเงินยูโร และหันกลับมาถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯแทน ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินยูโรมาอยู่ที่ 1.2347 USD/EUR ทำสถิติแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.49
นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ คุชชิ่ง โอกลาโฮม่า ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI ที่ปริมาณสำรองได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 37 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ เกือบเต็มขีดความสามารถในการจัดเก็บสูงสุดที่ 40 ล้านบาร์เรล
ปัจจัยดังกล่าวได้ถูกส่งผ่านมายังภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงเช่นกัน ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค. 53) ที่ตลาดสิงคโปร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 75.81 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 84.02 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 86.83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายวิทยา กล่าวว่าราคาน้ำมันยังคงผันผวนตามปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงปัจจัยข่าวเศรษฐกิจและการเมืองรายวัน ทั้งนี้ ให้จับตามองตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ตลอดจนความวิตกกังวลของนักลงทุนที่มีต่อปัญหาหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรปอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อราคาน้ำมัน จึงขอให้ผู้บริโภควางแผนการใช้พลังงานอย่างประหยัดและรู้คุณค่าที่สุด
และจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพมหานครและบริเวณใกล้เคียง ได้ส่งกระทบต่อการขนส่งน้ำมันจากคลังน้ำมันไปยังสถานีบริการปตท. ที่อยู่ในพื้นที่ห้ามรถบรรทุกน้ำมันวิ่ง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย จึงอาจส่งผลให้สถานีบริการปตท. ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวบางแห่งมีน้ำมันไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย
ทั้งนี้ ปตท. ได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดทั้งที่คลังน้ำมัน ระบบการขนส่ง และสถานีบริการปลายทาง และจะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งดำเนินการขนส่งและบริหารจัดการให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติโดยด่วนที่สุด ทันทีที่สถานการณ์เอื้ออำนวย