สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ใช้วัดภาวะเงินเฟ้อ แตะระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน ที่ 3.7% ในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.4% ในเดือนมีนาคม
ขณะที่ดัชนีราคาผู้ค้าปลีก (RPI) ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้ชี้วัดเงินเฟ้ออีกทางหนึ่งโดยรวมต้นทุนเกี่ยวกับบ้าน ก็ปรับตัวขึ้นแตะ 5.3% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 4.4% ในเดือนก่อนหน้า นับว่าสูงที่สุดตั้งแต่เดือนก.ค.2534
โดย CPI เป็นดัชนีหลักที่ธนาคารกลางอังกฤษใช้ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ส่วน RPI เป็นดัชนีที่ใช้ในการเจรจาเรื่องค่าจ้าง
สำนักงานสถิติฯระบุว่า ราคาอาหารที่พุ่งขึ้นถึง 2.6% อันเนื่องมาจากเหตุการณ์เถ้าถ่านภูเขาไฟ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย.ขยายตัวต่อเนื่องจนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 และสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารอังกฤษ
นอกจากนี้ ภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่สูงขึ้น รวมถึงราคาเสื้อผ้าที่ปรับตัวขึ้น ก็มีส่วนทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติฯกล่าวว่า ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นส่งผลต่อเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ในวงที่จำกัด