นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความรุนแรงทางการเมืองในขณะนี้จะกระทบการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จากที่คาดไว้
“ประเมินในระยะสั้น ปัญหาการเมืองคงจะกระทบเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ปีนี้ ให้ลดลง แต่จะมากน้อยแค่ไหนในขณะนี้ไม่สามารถบอกได้ โดยจะต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดก่อน" นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนปัญหาการเมืองจะเป็นข้อจำกัดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การพิจารณานโยบายอดอกเบี้ยนั้น จะต้องพิจารณาจากภาพรวมเศรษฐกิจล่าสุด แล้วประมาณการไปข้างหน้า 8 ไตรมาส ว่าเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนไปจากการประมาณการเดิมมากหรือน้อยแค่ไหน โดยต้องดูทั้งปัจจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ การขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงแรงกดดันในด้านเงินเฟ้อว่า ในช่วงต่อไปจะเพิ่มขึ้นหรือไม่
และที่สำคัญที่สุดจะต้องประเมินด้วยว่าการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำพิเศษนานๆ ในขณะนี้ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมในวันที่ 2 มิถุนายนนี้
“ในการประเมินความเสียหายของปัจจัยการเมืองในช่วงที่ผ่านมาร้อยละ 0.9 นั้นถือเป็นกรณีพื้นฐาน และเมื่อการเมืองมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในขณะนี้ คาดว่าความเสียหายยังไม่มากกว่ากรณีเลวร้ายที่ประมาณการไว้ ดังนั้น เศรษฐกิจในปีนี้จึงน่าจะในประมาณการคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.3 และการประมาณการขั้นสูงที่ร้อยละ 5.8 แต่ถ้าเหตุการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อยาว และรุนแรง หรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาจจะต้องมีการประเมินผลกระทบกันใหม่" นายไพบูลย์ กล่าว