สำนักงานกำกับดูแลทางการเงินของรัฐบาลกลางเยอรมนี (BaFin) มีคำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลสำหรับหุ้นที่ยังไม่มีการกู้ยืมมาก่อน (naked short-selling) โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน และป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์การเงินลุกลามในยุโรป โดยคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงการห้ามทำ naked short-selling ในตราสารหนี้สกุลเงินยูโรที่มีความเสี่ยงสูง ตราสาร credit default swap (CDS) สกุลเงินยูโร และหุ้นของ 10 บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี รวมถึงดอยช์ แบงค์ เอจี และดอยช์ โพสต์แบงค์ เอจี
การทำ naked short selling เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินทั่วโลกเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในปี 2551 ซึ่งในครั้งนั้นรัฐบาลสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลีย ได้ประกาศห้ามทำ naked short selling ก่อนที่จะมีการยกเลิกคำสั่งในช่วงหลายเดือนต่อมา ทั้งนี้ BaFin ระบุในแถลงการณ์ว่า การทำ naked short selling กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกรรมการซื้อขายตราสารหนี้และตราสาร CDS สกุลเงินยูโร ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดการเงินตกอยู่ในภาวะผันผวนและบั่นทอนเสถียรภาพในระบบการเงินทั้งระบบ
ที่ผ่านมานั้น ผู้นำยุโรปได้ออกมาโจมตีนักเก็งกำไรที่เข้ามาทำ naked short selling ในตราสาร CDS สกุลเงินยูโร ขณะที่นายวูล์ฟกัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนี คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินในยุโรปจะประกาศใช้มาตรการห้ามทำช็อตเซลล์เพื่อปกป้องเสถียรภาพในตลาดการเงิน
ข่าวรัฐบาลเยอรมนีสั่งห้ามทำ naked short selling ได้สร้างความตื่นตระหนกทั้งในตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตราทั่วโลก ส่งผลให้สกุลเงินยูโรถูกเทขายออกมาอย่างหนัก อีกทั้งฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงด้วย